จำนวนผู้ชม 4

การพัฒนาจังหวัดหนองบัวลำภู

          1. ภาพรวมและจุดเริ่มต้นการพัฒนา นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) หนองบัวลำภู ได้กล่าวว่า “ยินดีที่จะให้การสนับสนุนร่วมมือในการพัฒนาจังหวัด เนื่องจากหนองบัวลำภูไม่ได้ถูกพัฒนาหรือได้รับการกระตุ้นเศรษฐกิจมานาน แต่ตอนนี้จังหวัดได้มาถึงจุดที่ต้องช่วยกันพัฒนาแล้ว…” 

          2. การขับเคลื่อนเศรษฐกิจและกิจกรรมสำคัญ การพัฒนาเศรษฐกิจเริ่มต้นขึ้นโดยได้รับแรงกระตุ้นจากผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งมี “ใจเป็นนักพัฒนา” และเป็น “มือเยี่ยมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ” กิจกรรมที่ถูกจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่:

  • งานประเพณีสงกรานต์
  • งานประกวดควายสวยงาม
  • ประเพณีบุญบั้งไฟ
  • งานเกษตรแฟร์
  • งานกระตุ้นเศรษฐกิจใน 6 อำเภอ โดยเฉพาะ Mhor Lam Festival (หมอหลำ Festival) ในอำเภอเมือง ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างมาก

กิจกรรมเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในจังหวัดหนองบัวลำภูไปในทิศทางที่ดีขึ้น และพร้อมที่จะก้าวเดินต่อไป

          3. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโครงการเฉพาะกิจ

  • ถนนหนทางและสุขภาพ: นายก อบจ. รับทราบเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับถนนหนทางในพื้นที่ต่างๆ และกำลังดำเนินการแก้ไข โดยใช้เงินงบประมาณจากงบกระตุ้นเศรษฐกิจ, งบยุทธศาสตร์จังหวัด, และงบอุดหนุนเฉพาะกิจ นอกจากนี้ยังมีการดูแลเรื่องสุขภาพของประชาชน และการถ่ายโอนโรงเรียนและสถานศึกษา  
  • การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว: มีแผนการพัฒนาพื้นที่ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว โดยเฉพาะการวางแผนสร้าง Skywalk ภูพานน้อย หรือ Skywalk ทะเลหมอก ภูพานน้อย หากได้รับงบประมาณจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ก็จะดำเนินการต่อด้วยงบประมาณเฉพาะกิจ

โครงการอาบป่า (Forest Bathing Project)

          โครงการอาบป่าถือเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของหนองบัวลำภู โดยเฉพาะในพื้นที่ภูผาเพ

1. ที่มาและแนวคิดของโครงการ

  • ชื่อและสถานที่: โครงการนี้มีชื่อว่า “โครงการอาบป่าภูผาเพ” ซึ่งตั้งอยู่ในกรอบของศูนย์เรียนรู้อาบป่าเครือข่ายวัดพัชรกิติยาภาราม” โครงการนี้ได้รับการนำแนวคิดมาใช้โดย ดร.ศักพงษ์ หอม ผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนอธิการบดีสถาบันการเรียนรู้เพื่อปวงชน จากประเทศญี่ปุ่น
  • วัตถุประสงค์: โครงการมุ่งเน้นการบำบัดด้วยธรรมชาติทั้ง กายและจิตวิญญาณ ซึ่งคนทั่วโลกกำลังแสวงหา
  • ความสำคัญ: พื้นที่ป่าในหนองบัวลำภูมีความสมบูรณ์ และถูกมองว่าเป็นทั้ง “ปอด” “หัวใจ” และ “จิตวิญญาณ” ของคนในจังหวัดและคนทั่วโลก
  • ความแตกต่างจากการท่องเที่ยวทั่วไป: การอาบป่าเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งและละเอียดอ่อนกว่าการเดินป่าหรือการท่องเที่ยวทั่วไป เพราะเป็นการ จัดการทรัพยากรธรรมชาติร่วมกับการจัดการสุภาวะชุมชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน

2. หลักการทางวิทยาศาสตร์และการบำบัด
          การอาบป่ามีหลักการทางวิทยาศาสตร์รองรับ

  • การใช้ประสาทสัมผัส ใช้ อายตนะทั้ง 6 (ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ) ในการรับรู้ธรรมชาติอย่างสงบและมีสมาธิ
  • ไฟตอนไซด์ (Phytoncides) ต้นไม้จะปล่อยสารหอมระเหยที่เรียกว่า “ไฟตอนไซด์” ออกมาเพื่อป้องกันตนเองจากเชื้อราและแมลง สารนี้จะมีความเข้มข้นสูงเมื่อเราสัมผัสหรือกอดต้นไม้
  • ผลต่อสุขภาพ การสูดดมไฟตอนไซด์จะไปกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์เม็ดเลือดขาวชนิด “Natural Killer cells” (NK cells) หรือเซลล์เพชฌฆาต ซึ่งมีความสำคัญในการ ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง และเซลล์ที่มาจากเชื้อไวรัส
  • ประโยชน์อื่นๆ การอาบป่าช่วยลดความเครียด บรรเทาอาการซึมเศร้า และช่วยให้ความดันลดลง

3. การพัฒนากายภาพและโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออาบป่า

  • น้ำตก: พื้นที่คุ้มคำใหญ่เป็นป่าต้นน้ำ มีลำน้ำตลอดทั้งปี การพัฒนามีเป้าหมายที่จะปรับปรุงน้ำตกคำปาสร/คำสั้น (Namtok Kham Tat Sawon) ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ น้ำตกจากต้นน้ำมีทั้งหมด 7 ถึง 8 ชั้น
  • ถนน: มีการขอความอนุเคราะห์จากนายก อบจ. ให้ช่วยปรับปรุงถนนทางขึ้นเพื่อให้รถวิ่งได้สะดวก
  • กิจกรรมร่วม: มีการวางแผนจัดงานในวันที่ 13 ตุลาคม เพื่อ “ทำบุญฝาย” หรือสร้างฝายน้ำล้น เพื่อกักเก็บน้ำให้มีน้ำตกที่อุดมสมบูรณ์ตลอดปี
  • จุดสนใจเฉพาะ: ในพื้นที่อาบป่ามีจุดที่น่าสนใจสำหรับการสร้างแรงบันดาลใจและจินตนาการ เช่น ต้นมะค่าขนาดใหญ่ที่สามารถกอดพร้อมกันได้หลายคน รอยพระพุทธบาท หินรูปร่างคล้ายโขลงช้างและไดโนเสาร์ และดอกดิน (Curcuma)

4. โครงการ 621 โครงการอาบป่าภูผาเพ ถูกจัดให้อยู่ในกรอบของตัวเลข 621 ซึ่งมาจากหลักธรรมะและกระบวนการพัฒนาตนเอง

  • 6  หมายถึง อายตนะ 6 (ตา, หู, จมูก, ลิ้น, กาย, ใจ) และอายตนะภายนอก (รูป, เสียง, กลิ่น, รส, โผฏฐัพพะ, ธรรมารมณ์) ที่ใช้ในการรับรู้
  • 2  หมายถึง ผลของอารมณ์ที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ ได้แก่ อิฏฐารมณ์ (ชอบใจ/สุข) และ อนิฏฐารมณ์ (ไม่ชอบใจ/ทุกข์)
  • 1  หมายถึง การเกิด อัตตา (ตัวตน) ของแต่ละบุคคล เมื่อตาเห็นรูปและมีการปรุงแต่งเป็นสุขหรือทุกข์ ซึ่งประสบการณ์ที่ได้รับจะไม่เหมือนกัน 100% แม้จะเดินด้วยกัน